พังโม่ชะกับพะหล่าดี

โม่ชะเป็นช้างที่ส่งเสียงดังร่าเริงมากที่สุดตัวหนึ่งในโรงพยาบาลช้างและชอบให้มีคนคุยด้วย ฉะนั้นเวลาที่พะหล่าดีต้องไปธุระข้างนอกโรงพยาบาล ไม่ว่าจะแค่ไปตัดหญ้าให้โม่ชะหรือไปบวชเรียนนานๆ คุณโซไรดาจะคอยเตือนให้พะหล่าดีโทรศัพท์กลับมาหาโม่ชะ พอได้ยินเสียงของพี่เลี้ยงแล้วโม่ชะก็ดูจะสบายใจขึ้น

ประวัติพังโม่ชะ

ช้างน้อย “พังโม่ชะ” อายุ 7 เดือนเศษ เข้ารับการรักษาเนื่องจากเหยียบกับระเบิด เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 เวลา 14.00 น. ในขณะที่ไปกับแม่ช้าง (พังโม่เกเกร อายุ 32 ปี) ที่เจ้าของนำไปรับจ้างลากไม้ในประเทศพม่า เมื่อมูลนิธิฯ ได้รับแจ้ง เลขาธิการฯ จึงให้ทำการขนย้ายช้างน้อยมาพร้อมกับแม่ เดินทางมาถึงเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2549 เวลา 02.15 น. ช้างน้อยอาการบาดเจ็บสาหัสโดยเท้าหน้าขวาโดนกับระเบิด ฝ่าเท้าขาดหายไปหมด แผลลอยจากพื้นประมาณ 3 นิ้ว บาดแผลฉีกขาดรุ่งริ่ง และมีเศษกระดูกนิ้วเท้าห้อย มีเลือดออกมาเล็กน้อย บริเวณแผลจนถึงต้นขาหน้าขวาบวม ส้นเท้าหน้าซ้ายมีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิด พบแผลถลอกบริเวณหน้างวงและมุมปากทั้งสองด้าน

ทำการรักษาบาดแผลและต่อมาใช้สมุนไพรที่รับบริจาคจากนายยูซุบคาร เพียรรักษ์ ทาบริเวณบาดแผล ร่วมกับยาปฏิชีวนะ จนกระทั่งบาดแผลหายสนิทตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2550 แต่การที่ขาหน้าซ้ายต้องรับน้ำหนัก 2 ใน 3 ของน้ำหนักตัวโดยไม่มีขาอีกข้างช่วยพยุงทำให้ขาหน้าซ้ายโค้งงอผิดรูป ตลอดจนกระดูกสันหลังโก่งงอ เนื่องจากเสียการทรงตัวจากการที่ขาขวาหายไป เมื่อช้างพังโม่ชะหย่านม และแม่ช้างได้เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดในวันที่ 12 ธันวาคม 2550 ขณะที่ช้างน้อยอายุได้ 2 ปี 1 เดือน เจ้าของได้ทำการยกช้างพังโม่ชะให้กับมูลนิธิเพื่อนช้าง

ต่อมาในวันที่ 12 มกราคม 2551 เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้างให้นำพังแท่นทองย้ายมาอยู่เป็นเพื่อนช้างน้อยพังโม่ชะ ภายหลังจากแท่นทองย้ายมาอยู่ใกล้ๆ ช้างน้อยพังโม่ชะมีอาการร่าเริงขึ้น หากพังแท่นทองไปเดินออกกำลังกายกับช้างประจำทั้ง 3 เชือก (พังธานี พังอีเข้อ และพังอ้วน) ช้างน้อยพังโม่ชะจะพยายามเดินตามหาพังแท่นทองและร้องเรียกหาเป็นประจำและจะแสดงอาการดีใจปีนคอกเมื่อเห็นพังแท่นทองเดินกลับมาหา

ด้วยความเมตตาของผู้บริจาคและทุกฝ่ายที่ได้ให้ความช่วยเหลือ พังโม่ชะจึงเป็นช้างเชือกแรกของโลกที่ได้รับและได้หัดเดินด้วยขาเทียม ช้างน้อยสามารถลงน้ำหนักขาข้างที่ขาดลงบนขาเทียมทำให้ผ่อนน้ำหนักของขาข้างที่โก่งได้เป็นผลดีอย่างมาก แต่เนื่องจากโม่ชะเจริญเติบโตเร็วจึงต้องมีการขยายขาเทียมเปลี่ยนและปรับขนาดขาเทียมอีกหลายครั้ง มูลนิธิฯยังต้องใช้การเตรียมการและเงินอีกจำนวนมากในการคิดค้นนวัตกรรมขาเทียมสำหรับช้างซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการสัตวแพทย์และช้าง ขณะนี้ที่ช้างน้อยพังโม่ชะยังรอขาเทียมข้างใหม่อยู่ก็จะใช้วิธีวางขาพาดบนราวคอกเพื่อช่วยในการพยุงน้ำหนัก คล้ายกับเวลาที่คนเท้าแขนบนโต๊ะซึ่งคงจะไม่ค่อยสบายนักสำหรับลูกช้าง โรงงานขาเทียมที่สร้างขึ้นใหม่ที่โรงพยาบาลช้างจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผลิตขาเทียมลงบ้างและช่วยประคับประคองช้างน้อยพังโม่ชะได้อย่างต่อเนื่องไปในอนาคต

พี่เลี้ยงของโม่ชะ

พะหล่าดีเป็นพี่เลี้ยงของโม่ชะมาตั้งแต่ช้างอายุเพียง 2 ปี เขารู้จักโม่ชะดีว่าเป็นช้างน้อยที่น่ารักและขี้อ้อนเสมอถึงแม้ต้องเคยผ่านประสบการณ์ที่แสนสาหัสจากอุบัติเหตุฉกรรจ์ โม่ชะผูกพันกับพี่เลี้ยงมาก หากพี่เลี้ยงหายหน้าไปพักกลางวันเพียงครู่เดียว โม่ชะก็ร้องหาซะแล้ว!

พะหล่าดีใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันดูแลโม่ชะให้อยู่อย่างสบายที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ เขารู้ว่าโม่ชะชอบนอนกลางวันบนฟูกส่วนตัว ก็จะทำคอยความสะอาดฟูกและนำมาปูลาดไว้ให้เสมอ เขาคอยขยับขาเทียมให้ตรงพอดีเพื่อผ่อนแรงกดที่กระดูกสันหลังของช้าง

พะหล่าดีทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมสัตวแพทย์เพื่อเฝ้าดูอาการโม่ชะ และป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บใดๆเพิ่มเติมแก่ช้างน้อยจากการที่ต้องใช้ร่างกายส่วนที่เหลือชดเชยขาข้างที่ขาดไป ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของทีมงานและอุปการะคุณจากผู้บริจาคเงิน ตอนนี้โม่ชะกำลังจะได้ขาเทียมทันสมัยอันใหม่จากโรงงานขาเทียมของมูลนิธิเพื่อนช้างเอง

 

สนับสนุนช้างที่อยู่กับเรา